ตำรวจดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ แจงเหตุไม่จับไอ้ณัฐ ฆาตกรฆ่าน้องอ้อม สาวเซลขายรถตั้งแต่แรก!

            จากกรณีเกิดเหตุสลดกับ น.ส.อ้อม อายุ 36 ปี เซลล์ขายรถ จ.เชียงใหม่  ที่ถูกลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา และฆ่า ก่อนนำศพไปซ่อนไว้ในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง โดยผู้ก่อเหตุคือ นายณัฐพล อายุ 41 ปี เจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 30 เม.ย.66 ที่ผ่านมา  ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเพื่อพบว่า ผู้ต้องหาได้เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง  โดยก่อนหน้านี้เป็นเด็กหญิงวัย 18 ปี  และได้มีการแจ้งความแล้วแต่ไม่มีการจับกุมตัวแต่อย่างใด กระทั่งกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง ทำให้ น.ส.อ้อม เสียชีวิต  

            ต่อมา ทาง สภ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ในโพสข้อความในเพจของสถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า อนุญาตนำเรียนให้ประชาชนทราบถึง ข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้

           1. เหตุเกิดวันที่ 10 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 19.30 น. พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย จึงได้ร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สอบปากคำผู้เสียหายได้รับข้อมูลเบื้องต้นไว้ และลงพื้นที่หาพยานหลักฐาน จากนั้นจึงส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลดอยสะเก็ด และนัดให้ผู้เสียหายมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 11 เมษายน 2566 ช่วงเช้าอีกครั้ง เพื่อพาดูเส้นทาง

            2. ในวันที่ 11 เมษายน 2566 ผู้เสียหายพร้อมญาติได้เข้าพบเจ้าหน้าที่สืบสวนพร้อมกันลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุตั้งแต่แยกต้นเปาพัฒนา เขต อ.สันกำแพง ถึงเขื่อนแม่กวง เขต อ.ดอยสะเก็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้หาพยานหลักฐาน จนกระทั่งทราบตัวผู้ต้องหา ในวันเดียวกัน ซึ่งผู้เสียหายชี้ยืนยันภาพใบหน้าคนร้าย

            3. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่กดดันผู้ต้องหา ทั้งที่บ้านพักและที่ทำงานเพื่อให้ได้ตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

            4.จนกระทั่ง ผู้ต้องหาประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งว่าจะพร้อมกับทนายความเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ซึ่งในวันที่ 17 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 10.00 น. ผู้ต้องหาก็มามอบตัวกับพนักงานสอบสวน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ พร้อมสอบสวนปากคำ เนื่องจากในวันเข้ามอบตัว เป็นวันหยุดราชการ และเป็นวันปิดทำการศาล จึงไม่สามารถนำตัวไปฝากขังต่อศาลได้ ประกอบกับเป็นการเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง จึงไม่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ตามกฏหมาย

                เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอยสะเก็ด มีความสนใจและใส่ใจ ซึ่งใช้เวลา 1 อาทิตย์ ที่จะติดตามผู้ต้องหาให้มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และให้ความเป็นธรรมกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ไม่ได้ประวิงเวลาหรือก่อให้เกิดความล่าช้าแต่อย่างใด ได้ดำเนินการตามขั้นตอนทุกกระบวนการของกฎหมายทุกประการ

                 ขณะนี้รอผลการตรวจร่างกายของผู้เสียหายและผลการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหามาประกอบคดี จึงขอให้พี่น้องประชาชนได้ใช้วิจารณญาณในการติดตามข่าวสาร และเข้าใจขั้นตอนการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

ที่มา เพจสถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่

483