เมื่อวันที่
9 สิงหาคม 2566 เวลา 9.30 น. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ได้แถลง ความคืบหน้าเกี่ยวกับสุขภาพ
"ช้างพลายศักดิ์สุรินท์และแนวทางการรักษา" หลังจากเดินทางกลับมาจากประเทศศรีลังกา
และกักตัวเฝ้าระวังโรค อยู่ที่ศูนย์วิจัยและควบคุมเฝ้าระวังโรคสถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ
อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง
นายประสิทธิ์
เกิดโต รองผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กล่าวว่า
ตั้งแต่ที่พลายศักดิ์สุรินทร์ได้ลงจากเครื่องบินเมื่อวันที่ 2 ก.ค.66 ที่ผ่านมา ได้เดินทางเข้ากักโรคที่
อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง จนถึงปัจจุบันได้มีการกักโรคครบแล้ว 1
เดือน 7 วัน หลังจากเดินทางถึงสถานที่กักโรค
ได้มีการตรวจเลือดเพื่อหาไข่พยาธิที่อาจจะมาจากประเทศศรีลังกา เป็นการตรวจไข่พยาธิในอุจาระ พยาธิในเลือด พยาธิทางเดินอาหาร วัณโรค แท้งติดต่อ และฉี่หนู โรคปากและเท้าเปื่อยและเฮาร์ปีสไวรัส ซึ่งผลการตรวจเลือดทั้ง 2 ครั้งไม่พบ รวมทั้งค่าโลหิตวิทยาและชีวเคมีในเลือดปกติ อยู่ระหว่างการตรวจเลือดในครั้งที่ 3 เมื่อทราบผลแล้วต้องแจ้งให้ทรางกรมปศุสัตว์ทราบ เพื่อสั่งย้ายพลายศักดิ์สุรินทร์ได้ เมื่อย้ายเข้ารักษาที่
รพ.ช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยฯ จะทำการวินิจฉัยโรคที่มีอย่างละเอียด เช่น
ขาซ้าย ต้อที่ตาข้างขวา
ด้านชีวิตความเป็นอยู่ตอนนี้พลายศักดิ์สุรินทร์อ้วนขึ้น
กินอาหารและน้ำได้ดีขับถ่ายปกติ ล้มตัวลงนอนได้ เริ่มคุ้นชินกับควาญช้าง 3 คน ของไทย ควาญช้างขึ้นขี่ช้างได้ โดยระหว่างนี้ได้ฝึกให้ช้างเดินขึ้นรถ
ซึ่งสามารถทำได้อย่างดี
ช้างค่อนข้างคุ้นเคยอยู่แล้ว
น.สพ.ดร.ทวีโภค
อังควานิช หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ
ในพระอุปถัมภ์ฯ กล่าวว่า การดูแลรักษาช้างในช่วงการกักโรค สัตวแพทย์ตรวจพบอาการความเจ็บป่วย
ได้แก่ ตาขวา คล้ายเป็นต้อกระจก ส่วนขาหน้าซ้าย
มีอาการเหยียดตึง เกร็งผิดรูป โดยใช้เชิญหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
จากหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น จุฬาฯ
เกษตรศาสตร์ฯ มหิดล มช. ฯลฯ มาร่วมตรวจรักษาด้วย
การตรวจสุขภาพของช้าง 5 ข้อที่ให้ความสำคัญคือ
1.อาการขาหน้าซ้ายที่เหยียดเกร็ง จะต้องทำการวิเคราะห์การเดินเพื่อตรวจสอบหามัดกล้ามเนื้อที่มีปัญหา
โดยจะมีการฉายรังสีเอ็กซเรย์ ตรวจด้วยคลื่นความถี่สูง อัลตราซาวด์ ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิหาการอักเสบปวดบวม
เป็นต้น
2.อาการของตาด้านขวา อาจจะเป็นต้อกระจก ยังไม่ทราบระดับความรุนแรง เนื่องจากไม่สามารถเข้าใกล้ได้
เบื้องต้นให้ควาญช้างฝึกใช้มือพยายามลูบที่ตาขวาเพื่อให้ช้างคุ้นเคย เมื่อนำเข้ารักษาที่
รพ. จะสามารถใช้อุปกรณ์หรือเครื่องอัลตราซาวด์วินิจฉัยระดับความเสียหาย เพื่อวางแผนให้ทำการรักษาได้
3.การตรวจอื่นๆ ที่ต้องติดตาม เช่น พบโปรตีนในปัสสาวะ
การทำงานของไต การวัดระดับฮอร์โมนความเครียด
การตรวจวัดหัวใจ จะทำได้ก็ต่อเมื่อได้ย้ายไปที่
รพ.ช้าง
4. ความเครียดของช้าง ซึ่งพลายศักดิ์สุรินทร์ค่อนข้างที่จะปรับตัวได้ดี
เปิดรับควาญทั้ง 3 คน
โดยใช้เวลาไม่นาน ซึ่งปกติแล้วช้างจะทำความคุ้นเคยไม่น้อยกว่า 3-6 เดือน
5.สุดท้ายคือ ดูแลสุขภาพจิตของช้าง ถ้าศักดิ์สุรินทร์ต้องอยู่กับเรา
ต้องอยู่อย่างมีความสุข อยู่ในพื้นที่ป่าธรรมชาติ
มีช้างเชือกอื่นๆที่พร้อมจะเป็นเพื่อนในวันข้างหน้าได้
ทั้งนี้
รองผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กล่าวย้ำว่า พลายศักดิ์สุรินทร์ เป็นช้างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ร.10 รับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ยืนยันว่าไม่มีการรับบริจาคช่วยเหลือพลายศักดิ์สุรินทร์ใดๆทั้งสิ้น
ฝากถึงประชาชนให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่มาขอรับบริจาคด้วย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น