วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ตำรวจทางหลวงส่งตัวแทนแจง ขุนตาลเป็นเส้นทางปิดตาย ไม่มีเส้นทางเลี่ยงได้ จำเป็นต้องติดตั้งกล้องจับความเร็ว และ CCTV เพื่อความปลอดภัยและการช่วยเหลือที่รวดเร็ว

   


เมื่อวันที่ 28 พ.ค.67 ที่หอประชุมจังหวัด ศาลากลางจังหวัดลำปาง  เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้ส่ง ด.ต.อดิศร หุตะแพทย์  เป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการจังหวัดและประชุมหัวหน้าส่วนจังหวัดลำปาง  และชี้แจงเกี่ยวกับกรณีการติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็ว เส้นทางสายลำปาง-ลำพูน  ซึ่งได้มีการเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลมีเดียร์ ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก


ตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงฯ  กล่าวว่า  โครงการติดตั้งระบบแจ้งเตือนและเฝ้าระวังความปลอดภัยการใช้ทางหลวงขุนตาล-ห้างฉัตร เป็นความร่วมมือกันระหว่างกรมการขนส่งทางบก และกรมทางหลวง โดยได้รับงบประมาณกองทุนความปลอดภัยทางถนน ดำเนินโครงการและติดตั้งอุปกรณ์และระบบไปแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์  ขณะนี้อยู่ในช่วงการทดลองระบบ  

สำหรับโครงการนี้มีชิ้นงานทั้งหมด 3 งาน คือ 1.ติดตั้งป้ายอัจฉริยะจำนวน 2 ป้าย  เป็นการติดตั้งป้ายทั้งขาเข้าและขาออก 2.ติดตั้งกล้อง CCTV  ทั้งหมด 18 จุด อยู่ในฝั่งพื้นที่ จ.ลำปาง 12 จุด และอยู่ในฝั่งพื้นที่ จ.ลำพูน  6 จุด และ 3.ติดตั้งกล้องสปีดคาเมร่าตรวจจับความเร็วในเส้นทาง ขาออก (มุ่งหน้าไปลำพูน)  3 จุด  และขาเข้า (มุ่งหน้าเข้าลำปาง) 3 จุด


หลักการทำงานกล้อง CCTV คือ 1 จุดจะมี 2 ตัว สามารถรายงานเหตุการณ์ในจุดนั้นมายังป้ายอัจริยะ 2 ป้าย รถที่จะวิ่งทั้งขาเข้าและขาออก จะทราบเหตุการณ์ทางข้างหน้าก่อนว่ามีฝนตก รถเสีย รถจอด อุบัติเหตุ หรืออุปสรรคในทางอย่างไรบ้าง  เป็นต้น

ส่วนกล้องสปีดคาเมร่าหรือกล้องตรวจจับความเร็ว จะติดตั้งรวม 6 จุด  ทั้งขาเข้าและขาออก  ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในช่วงทดลองระบบ ยังไม่ได้บังคับใช้ทางกฎหมาย จะต้องทดลองจนกว่าจะแน่ใจว่าการแสดงผลได้จริงและไม่มีความผิดพลาดใดๆ  ยกตัวอย่างเช่น หากกล้องมีการจับความเร็วรถ พบว่าความเร็วเกินกำหนด 1 จุด เท่ากับมีความผิด 1 ครั้ง  หากกล้องจับความเร็วพบว่าความเร็วเกินกำหนดทั้ง 3 จุด  กล้องก็จะประมวลผลออกมาว่ามีความผิด 1 ครั้งเช่นกัน เท่ากับว่าผู้ขับขี่จะได้รับใบสั่งใบเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ได้ 3 ใบ  

เจ้าหน้าที่ฯ  กล่าวอีกว่า  เดิมเส้นทางนี้จะไม่มีกล้องตรวจจับความเร็ว จะมีแต่กล้องวัดระดับความเร็วเท่านั้นเพื่อเตือนว่าขับรถเกิดกำหนดหรือไม่ โดยจะขึ้นเป็นตัวเลขสีแดงแจ้งที่หน้าจอ  การติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็วตามโครงการนี้ เนื่องจากเส้นทางลำปาง-ลำพูน ทางขึ้นดอยขุนตาลเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ที่ผ่านมาเมื่อเกิดอุบัติเหตุใหญ่เช่น รถบรรทุกไฟไหม้ รถน้ำมันคว่ำขวางถนน ฯลฯ  การสัญจรจะชะงักทันที ผู้สัญจรใช้เส้นทางดังกล่าวจะต้องประสบปัญหารถติดยาวนาน  กว่าจะเคลียร์เส้นทางหลายชั่วโมง  และที่สำคัญคือไม่สามารถใช้เส้นทางเลี่ยงอื่นได้เลยเหมือนถูกปิดตาย  เพราะฉะนั้นจึงต้องกำจัดความเร็วเพื่อความปลอดภัย  


โดยจุดที่ติดตั้งกล้องจับความเร็วนั้น เป็นจุดทางราบ และทางลงเขา ผู้ขับขี่จะต้องควบคุมความเร็วของรถให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ไม่ใช่ปล่อยให้รถไหลลงเขาไปอย่างเร็ว ถ้าเบรคกะทันหันก็จะเกิดอันตรายได้   ส่วนกล้อง CCTV  หากเกิดอุบัติเหตุจะจับภาพและแสดงผลผ่านจอมอนิเตอร์ได้เลย เจ้าหน้าที่จะสามารถแจ้งเข้าระงับเหตุได้ทันที เพื่อความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาต่างๆ  ซึ่งการนำเสนอข่าวที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ต่างๆ ที่ระบุว่ากล้องตรวจจับความเร็วมีจำนวนมากถึง 24 ตัวนั้น อาจจะทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนและไม่ตรงตามเท็จจริงทั้งหมด 

Share:

14 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ28 พฤษภาคม, 2567 02:54

    ขอทราบพิกัด กล้องจับความเร็วทั้ง 6 ตัวครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ28 พฤษภาคม, 2567 03:25

      น่าจะกล้องที่ยื่นออกมายาวๆๆฝั่งละ 3ต้นนั้นแหละค่ะความเร็ว

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ28 พฤษภาคม, 2567 16:57

      เข้าที่รายงานมามีแต่รถบรรทุกที่กรมทางหลวงแจ้งฉะนั้นน่าจะแบ่งเลนกำหนดความเร็ว

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ28 พฤษภาคม, 2567 03:34

    เยอะเกิน เรื่องมาก

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ28 พฤษภาคม, 2567 05:38

    ไม่ต้องพูดอ้อม มีจุดไหนบ้าง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ29 พฤษภาคม, 2567 09:32

      ทุกโค้งครับ

      ลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ28 พฤษภาคม, 2567 06:15

    สักวันมีเวลาจะไปสำรวจดูว่ากล้องมีตรงไหนบ้างครับ จัดไปครับ

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ28 พฤษภาคม, 2567 06:39

    ควรทำวิจัย มีกลุ่มทดสอบใช้ความเร็ว 50 ก่อนว่ามันปลอดภัยไหม​ ในสภาวะที่มีรถบรรทุกและรถวิ่งอยู่บนถนน ลงเขา มาจำกัดความเร็วแบบนี้ อันตรายกว่าเดิม ต้องมีการข้อมูลวิจัยมายืนยัน​ ต้องมีเคสกรณีศึกษาก่อน​ ไม่ใช่อยู่ๆอยากจะติดกล้องจับความเร็วเพื่อให้มีค่าปรับก็ทำไปแบบนั้น ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหามีแต่จะเพิ่มปัญหา

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ28 พฤษภาคม, 2567 07:06

    ทางราบบ้านมึงดิ ติดที่ลงเนินชัดๆ ตาถั่วเหรอไงวะ

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ28 พฤษภาคม, 2567 08:52

    คนเกลียดตำรวจเยอะ เพราะเพิ่มช่องทางหาเงินเข้าตำรวจ

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ28 พฤษภาคม, 2567 09:57

    นี้ผมโดนมาแล้วก่อนถึงเกษตรลำพูน น่าจะเป็นกล้องตัวเก่า ห้ามเกิน 80 ใบสั่งมา 90 ให้ไปจ่าย ถนนโล่งทางกว้างไม่ได้ขึ้นเนินลงเนิน ทำถนนใหม่ดีงาม แต่พี่ให้ขับแค่นั้น กฏหมายสมัยล้อเกวียน บังคับใช้จนถึงสมัยรถไฟฟ้า บ้าบอ

    ตอบลบ
  9. ไม่ระบุชื่อ28 พฤษภาคม, 2567 23:15

    ตางลงดอยตึงสอง บ่ะว่าจะเป็นทางลำปาง กะว่าหละปูนผมเห็นสมควรว่าน่าจะเอาเป็นกล้องจับอุบัติเหตุมากกว่าจะมาจับความเรว หากกล้องจับความเรวมีขาเข้า = 3 ตัว และขาออก 3 ตัว หากวิ่งเรวเกินกำหนดตึง 3 ตัวจับได้ตามจี้ตำหนวดชี้แจ้ง แต่ออกใบสั่งแค่ 1 ก้อหน้าจะมีกล้องจับความเร็วแค่ 1 ตั๋วก้อปอละก้าครับ แหมสองตั๋ว เอามายะหยังครับ มันเกินงบประมาณก่อ แตนตี้จะเอามาแป๋งทางขึ้นดอยฮื้อมันดีกว่านี้ก่อ ผ่อลอขับรถไปเมื่อได ผิวถนนผอยังกับคลื่นทะเลพัทยา คิดคับ คิด ????

    ตอบลบ
  10. ไม่ระบุชื่อ29 พฤษภาคม, 2567 01:51

    เอาสมองส่วนไหนคิดติดแบบนี้หันมาขี่ล้อเกวียนดีกว่าถ้าจะดี

    ตอบลบ
  11. ไม่ระบุชื่อ29 พฤษภาคม, 2567 06:52

    กะเคยยะด่านก๋างจ้อง อั้นกะเป๋นก้องดูดสตางค์ละกั๋น

    ตอบลบ

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์