เมื่อวันที่ 28 พ.ค.67 ที่หอประชุมจังหวัด ศาลากลางจังหวัดลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้ส่ง ด.ต.อดิศร หุตะแพทย์ เป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการจังหวัดและประชุมหัวหน้าส่วนจังหวัดลำปาง และชี้แจงเกี่ยวกับกรณีการติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็ว เส้นทางสายลำปาง-ลำพูน ซึ่งได้มีการเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลมีเดียร์ ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก
ตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงฯ กล่าวว่า
โครงการติดตั้งระบบแจ้งเตือนและเฝ้าระวังความปลอดภัยการใช้ทางหลวงขุนตาล-ห้างฉัตร
เป็นความร่วมมือกันระหว่างกรมการขนส่งทางบก และกรมทางหลวง โดยได้รับงบประมาณกองทุนความปลอดภัยทางถนน
ดำเนินโครงการและติดตั้งอุปกรณ์และระบบไปแล้วกว่า 90
เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้อยู่ในช่วงการทดลองระบบ
สำหรับโครงการนี้มีชิ้นงานทั้งหมด
3
งาน คือ 1.ติดตั้งป้ายอัจฉริยะจำนวน 2 ป้าย
เป็นการติดตั้งป้ายทั้งขาเข้าและขาออก 2.ติดตั้งกล้อง
CCTV ทั้งหมด 18 จุด
อยู่ในฝั่งพื้นที่ จ.ลำปาง 12 จุด และอยู่ในฝั่งพื้นที่
จ.ลำพูน 6 จุด และ 3.ติดตั้งกล้องสปีดคาเมร่าตรวจจับความเร็วในเส้นทาง ขาออก
(มุ่งหน้าไปลำพูน) 3 จุด และขาเข้า (มุ่งหน้าเข้าลำปาง) 3 จุด
หลักการทำงานกล้อง
CCTV
คือ 1 จุดจะมี 2 ตัว
สามารถรายงานเหตุการณ์ในจุดนั้นมายังป้ายอัจริยะ 2 ป้าย
รถที่จะวิ่งทั้งขาเข้าและขาออก จะทราบเหตุการณ์ทางข้างหน้าก่อนว่ามีฝนตก รถเสีย
รถจอด อุบัติเหตุ หรืออุปสรรคในทางอย่างไรบ้าง
เป็นต้น
ส่วนกล้องสปีดคาเมร่าหรือกล้องตรวจจับความเร็ว
จะติดตั้งรวม 6 จุด ทั้งขาเข้าและขาออก ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในช่วงทดลองระบบ
ยังไม่ได้บังคับใช้ทางกฎหมาย จะต้องทดลองจนกว่าจะแน่ใจว่าการแสดงผลได้จริงและไม่มีความผิดพลาดใดๆ ยกตัวอย่างเช่น หากกล้องมีการจับความเร็วรถ พบว่าความเร็วเกินกำหนด
1 จุด เท่ากับมีความผิด 1 ครั้ง หากกล้องจับความเร็วพบว่าความเร็วเกินกำหนดทั้ง
3 จุด กล้องก็จะประมวลผลออกมาว่ามีความผิด
1 ครั้งเช่นกัน เท่ากับว่าผู้ขับขี่จะได้รับใบสั่งใบเดียวเท่านั้น
ไม่ใช่ได้ 3 ใบ
เจ้าหน้าที่ฯ
กล่าวอีกว่า เดิมเส้นทางนี้จะไม่มีกล้องตรวจจับความเร็ว
จะมีแต่กล้องวัดระดับความเร็วเท่านั้นเพื่อเตือนว่าขับรถเกิดกำหนดหรือไม่ โดยจะขึ้นเป็นตัวเลขสีแดงแจ้งที่หน้าจอ การติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็วตามโครงการนี้ เนื่องจากเส้นทางลำปาง-ลำพูน
ทางขึ้นดอยขุนตาลเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ที่ผ่านมาเมื่อเกิดอุบัติเหตุใหญ่เช่น
รถบรรทุกไฟไหม้ รถน้ำมันคว่ำขวางถนน ฯลฯ การสัญจรจะชะงักทันที
ผู้สัญจรใช้เส้นทางดังกล่าวจะต้องประสบปัญหารถติดยาวนาน กว่าจะเคลียร์เส้นทางหลายชั่วโมง และที่สำคัญคือไม่สามารถใช้เส้นทางเลี่ยงอื่นได้เลยเหมือนถูกปิดตาย เพราะฉะนั้นจึงต้องกำจัดความเร็วเพื่อความปลอดภัย
โดยจุดที่ติดตั้งกล้องจับความเร็วนั้น
เป็นจุดทางราบ และทางลงเขา ผู้ขับขี่จะต้องควบคุมความเร็วของรถให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย
ไม่ใช่ปล่อยให้รถไหลลงเขาไปอย่างเร็ว ถ้าเบรคกะทันหันก็จะเกิดอันตรายได้ ส่วนกล้อง
CCTV หากเกิดอุบัติเหตุจะจับภาพและแสดงผลผ่านจอมอนิเตอร์ได้เลย
เจ้าหน้าที่จะสามารถแจ้งเข้าระงับเหตุได้ทันที เพื่อความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาต่างๆ
ซึ่งการนำเสนอข่าวที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ต่างๆ
ที่ระบุว่ากล้องตรวจจับความเร็วมีจำนวนมากถึง 24 ตัวนั้น อาจจะทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนและไม่ตรงตามเท็จจริงทั้งหมด
ขอทราบพิกัด กล้องจับความเร็วทั้ง 6 ตัวครับ
ตอบลบน่าจะกล้องที่ยื่นออกมายาวๆๆฝั่งละ 3ต้นนั้นแหละค่ะความเร็ว
ลบเข้าที่รายงานมามีแต่รถบรรทุกที่กรมทางหลวงแจ้งฉะนั้นน่าจะแบ่งเลนกำหนดความเร็ว
ลบเยอะเกิน เรื่องมาก
ตอบลบไม่ต้องพูดอ้อม มีจุดไหนบ้าง
ตอบลบทุกโค้งครับ
ลบสักวันมีเวลาจะไปสำรวจดูว่ากล้องมีตรงไหนบ้างครับ จัดไปครับ
ตอบลบควรทำวิจัย มีกลุ่มทดสอบใช้ความเร็ว 50 ก่อนว่ามันปลอดภัยไหม ในสภาวะที่มีรถบรรทุกและรถวิ่งอยู่บนถนน ลงเขา มาจำกัดความเร็วแบบนี้ อันตรายกว่าเดิม ต้องมีการข้อมูลวิจัยมายืนยัน ต้องมีเคสกรณีศึกษาก่อน ไม่ใช่อยู่ๆอยากจะติดกล้องจับความเร็วเพื่อให้มีค่าปรับก็ทำไปแบบนั้น ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหามีแต่จะเพิ่มปัญหา
ตอบลบทางราบบ้านมึงดิ ติดที่ลงเนินชัดๆ ตาถั่วเหรอไงวะ
ตอบลบคนเกลียดตำรวจเยอะ เพราะเพิ่มช่องทางหาเงินเข้าตำรวจ
ตอบลบนี้ผมโดนมาแล้วก่อนถึงเกษตรลำพูน น่าจะเป็นกล้องตัวเก่า ห้ามเกิน 80 ใบสั่งมา 90 ให้ไปจ่าย ถนนโล่งทางกว้างไม่ได้ขึ้นเนินลงเนิน ทำถนนใหม่ดีงาม แต่พี่ให้ขับแค่นั้น กฏหมายสมัยล้อเกวียน บังคับใช้จนถึงสมัยรถไฟฟ้า บ้าบอ
ตอบลบตางลงดอยตึงสอง บ่ะว่าจะเป็นทางลำปาง กะว่าหละปูนผมเห็นสมควรว่าน่าจะเอาเป็นกล้องจับอุบัติเหตุมากกว่าจะมาจับความเรว หากกล้องจับความเรวมีขาเข้า = 3 ตัว และขาออก 3 ตัว หากวิ่งเรวเกินกำหนดตึง 3 ตัวจับได้ตามจี้ตำหนวดชี้แจ้ง แต่ออกใบสั่งแค่ 1 ก้อหน้าจะมีกล้องจับความเร็วแค่ 1 ตั๋วก้อปอละก้าครับ แหมสองตั๋ว เอามายะหยังครับ มันเกินงบประมาณก่อ แตนตี้จะเอามาแป๋งทางขึ้นดอยฮื้อมันดีกว่านี้ก่อ ผ่อลอขับรถไปเมื่อได ผิวถนนผอยังกับคลื่นทะเลพัทยา คิดคับ คิด ????
ตอบลบเอาสมองส่วนไหนคิดติดแบบนี้หันมาขี่ล้อเกวียนดีกว่าถ้าจะดี
ตอบลบกะเคยยะด่านก๋างจ้อง อั้นกะเป๋นก้องดูดสตางค์ละกั๋น
ตอบลบ