วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2567

หนุ่มเล่าประสบการณ์หลอนบ้านพักย่านสบตุ๋ย "ห้องประตูแดง" เหตุเกิดที่ลำปาง


เรื่องเล่าในกลุ่มชาวแก๊งเดอะโกสเตอร์ The Ghost Radio จากคุณ SenkNattachai Laksameelert

"ประตูห้องแดง" เหตุเกิดลำปาง

         เรื่องนี้ไม่เคยมีใครรู้นอกจากคนในครอบครัวละเพื่อนสนิท 2-3 คนเท่านั้น เรื่องมันผ่านมานานแล้วเลยอยากเล่า และอยากให้ทุกคนช่วยไขข้อสงสัยว่ามันคืออะไร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับผมตอนอายุประมาน 18-20ปี (ผ่านมาเกือบ20ปี) เป็นช่วงที่อยู่บ้านหลังแรก เป็นบ้านปูนครึ่งไม้ในย่านสบตุ๋ย เนื่องจากเป็นคนจีนเลยอยู่กับอาม่าอากงตั้งแต่เกิดในลักษณะกงสี ผมได้นอนอยู่บนบ้านชั้น2 เป็นเพื่อนอาม่าหลังจากที่อากงได้เสียชีวิตไป ห้องจะเก่าๆ ทุกอย่างเป็นไม้ผมเลยพยายามแต่งให้มันมีบรรยากาศที่โอเคขึ้น วันเวลาผ่านไปอาม่าเริ่มเดินขึ้นชั้น2 ของบ้านไม่ไหวเลยทำห้องนอนอยู่ชั้นล่างเหลือผมคนเดียวที่นอนห้องชั้นบนนี้



        . . . มีอยู่คืนนึงเป็นเหตุการณ์ที่เหมือนเป็นจุดเริ่มต้น ผมตื่นกลางดึกกับเสียงของอะไรบางอย่าง เมื่อตื่นลืมตาดูมันมันเป็นเสียงถุงพลาสติกขยับ ถุงใบนั้นมีอะไรอยู่ด้านในสีขาวๆ แผ่นกลางๆ แต่มันเหมือนดิ้นและขยับแรงมากเสียงดังแซ่บๆๆ รัวๆ (ในภาพจุดที่วงกลมสีแดงให้) คิดว่าแอร์ไปโดนรึเปล่า แต่จากภาพแอร์อยู่อีกฝั่ง ที่แขวนอยู่อีกฝั่งจะไกลกันครับ แต่สิ่งของที่แขวนและวางข้างกันกลับไม่มีอะไรขยับเลยซักนิด แต่ไอถุงนี้ขยับแรงมาก ผมก็ได้แต่มองและหลับไป แต่อีกวันแทนที่ผมจะไปดูว่าคืออะไร ด้วยความเป็นเด็กมีเรื่องให้เล่นให้ทำเยอะเลยไม่สนใจและลืมมันไป

            หลังเหตุการณ์นี้เกือบเดือนคืนหนึ่งตัวผมเป็นไข้ครับ กลางห้องเคยมีเตียงไม้เก่าๆประกอบได้ และจะมีฟูกปูข้างๆเตียงไม้ ตัวผมกินยาแล้วนอนที่เตียงฟูก กลางดึกได้ตื่นขึ้นมาเหมือนกระสับกระส่ายไม่ค่อยโอเค สิ่งที่ผมเห็นคือเหมือนมีผู้ชายมานั่งข้างๆเตียง ในลักษณะมองลงมาที่ผม ขาเขาจะอยู่ข้างตัวผมเลยและก้มตัวเล็กน้อยมองลงมา แต่สิ่งนี้ยังไม่แน่ชัดและกล้าฟันธงว่าคืออะไร เพราะค่อนข้างเลือนลางและมึนหัวครับ จนเวลาผ่านไปซักเดือนหนึ่ง ผมตื่นกลางดึกครั้งนี้เป็นครั้งที่ผมไม่สามารถลืมไปทั้งชีวิต ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ปลายเตียงมองมาที่ผมลักษณะสูง 170-170ต้นๆ ผมสั้น หุ่นกลางๆ ออกผอมหน่อย ห่างกันแค่ 2เมตรผมจ้องไปและเขาก็มองมาระยะเวลา 5-6 วิแล้วเขาก็หายไปคือหายไปเลยแบบ cgคอมที่คล้ายๆโดนตัดออก อีกวันผมเลยไปเปิดถุงเพื่อที่จะเอากระดาษในนั้นมาดูกลับเป็นรูปผู้ชายคนหนึ่งเหมือนคนจีน ผมสั้น ภาพขาวดำแต่ผมไม่คุ้นและไม่เคยเห็นหน้าถ้าเป็นญาติพี่น้องอาม่าอากงก็จะพอรู้แต่นี่ไม่คุ้นเลย (แต่ผมรู้สึกเสียดายตลอดที่ไม่ได้ถือภาพนั้นไปถามอาม่าผมเพราะเป็นช่วงที่ผมติดเที่ยวและติดเพื่อนมาก)




            หลังจากนั้นเริ่มรู้สึกแปลกและเริ่มเล่าให้แม่ฟัง คำตอบก็ตามในหนังในละคร บอกว่าเล่นเกมส์เยอะ ตาฝาด ไม่มีหรอกผี และช่วงนั้นผมก็ได้ไปสถานที่ อโคจรหลายแห่ง เช่นช่วงนั้นมีนัดไปวัดกับญาติ กับเหตุการณ์ที่ไปยืนรอเพื่อนที่ลานโล่งๆ ริมแม่น้ำวังและมีต้นไม้ใหญ่อยู่ต้นหนึ่งและมีผมคนเดียวยังคุยกับเพื่อนที่ตามมาว่ากูคงโดนผีหลอกซักวันมาแต่ที่แบบนี้ มีไปรถยางรั่วตรงที่เปลี่ยว เหมือนดวงตกมากๆ ไปโรงพยาบาลตอนกลางคืนอีก ก็เลยได้มีโอกาสทำบุญเล็กๆน้อยๆครับ ใส่บาตร สวดมนต์ก่อนนอนบ้างนานๆ ครั้ง จนเวลาผ่านไปเป็นเดือนก็นึกว่าคงไม่มีอะไรแล้ว
            
            คืนหนึ่งผมตื่นกลางดึกอีกครั้งเหมือนนอนไม่สนิทต้องตื่นมา ก็เจอพี่ผู้ชายคนเดิมยืนอยู่ปลายเตียงจุดเดิมเป๊ะ คราวที่แล้วผมมองค้างไปที่เขาแต่รอบนี้ผมเลยลองขยับตัว ใจจริงอยากเดินลุกขึ้นให้รู้เลย แต่ปรากฏว่าขยับไม่ได้แม้ว่าจะออกแรงสุดยังไงเหมือนคนเป็นอัมพาท ผมก็ได้แต่มองค้างไปนานๆแบบนั้นแต่รอบนี้อยู่กัน 10กว่าวิเลย มันยิ่งชัดเจนขึ้นว่าในชีวิตนี้ผมเจอผีแล้วแหละ สุดท้ายภาพตัดตื่นอีกทีตอนเช้า ก็ไปเล่าให้คนที่บ้านฟังบ้างให้เพื่อนสนิทฟังบ้าง และนั่นคือครั้งสุดท้ายที่ได้เจอเขาจนถึงทุกวันนี้ไม่รู้ว่ามาจากไหน หรือตามมาจากนอกบ้าน เป็นเรื่องที่จะจำจนตายไม่มีวันลืม . . . ผมกล้าท้าจุดธูปสาบานและยืนยันด้วยคำว่าลูกผู้ชายได้เลยว่าที่เล่ามาคือเหตุการณ์เดียวในชีวิตจริงและเกิดขึ้นจริงตอนมีสติ . . และผมก็ไม่เห็นผู้ชายคนนี้อีกเลยจนทุกวันนี้



            ช่วงที่เจอก็ไม่ได้เจอบ่อยนะครับ ก็เว้นเป็นเดือนๆเหมือนกัน เรื่องที่เจอทั้งหมดจะเกิดในห้องนี้ครับ วันนี้เลยกลับไปเก็บภาพสถานที่จริงมาให้ด้วย ในห้องประตูแดงครับ ** ปล. ผมได้เล่าเรื่องนี้ให้น้องสาวผมฟัง น้องสาวผมเองก็นอนที่นี่ด้วยแต่คนละห้องบอกช่วงนั้นน่าจะใกล้ๆกัน เคยเดินขึ้นไปบนบ้านช่วงเย็นๆคนเดียวและมองผ่านกระจกห้องเก็บของไปเจอมือสีเทาๆซีดๆโผล่มาจากกองผ้า ห้องข้างๆประตูแดงและผมก็เล่าให้น้องสาวฟังเรื่องนี้เมื่อหลายปีแล้ว แลกเปลี่ยนเรื่องราวกัน จนวันนี้ยังขนหัวลุกไม่หาย
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์