กองทุนพัฒนาไฟฟ้าส่งสัญญาณ เตรียมคืน 11 โครงการให้เครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ

 

กองทุนพัฒนาไฟฟ้าส่งสัญญาณ  เตรียมคืน 11 โครงการให้เครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ด้าน “ศรีสุวรรณ” เตรียมยื่นหนังสือถึงประธานกองทุนฯ เร่งอนุมัติโครงการโดยเร็ว ขณะที่ “มะลิวรรณ” เผยรอบนี้ไม่รู้จะมาไม้ไหน หลังศาลพิพากษามีข้อโต้แย้งเรื่องระเบียบกันมา 1 ปี อยู่ๆร่อนหนังสือจะพิจารณาโครงการ

          เมื่อวันที่ 6 ม.ค.68 ที่ผ่านมา  นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์  ประธานเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีกองทุนพัฒนาไฟฟ้า โรงไฟฟ้าแม่เมาะ   ส่งหนังสือเรื่องการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ลงวันที่ 3 ม.ค.68  ลงนามโดยพล.ต.ต.สมพงษ์ สวนคร้ามดี หัวหน้าสำนักงาน เลขานุการ คพรฟ.กองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะ   ถึงนางมะลิวรรณ นาควิโรจน์  โดยในหนังสือมีใจความสำคัญว่า

“ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า (คพรฟ.) กองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง ครั้งที่ 10/2567 เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 67 ที่ประชุมได้พิจารณาโครงการชุมชน จำนวน 11 โครงการของผู้ฟ้องคดีที่ 2 ถึงผู้ผ้องคดีที่ 47  ตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามระเบียบซึ่งบังคับในขณะเสนอโครงการชุมชนแล้ว  ที่ประชุมมีมติให้ดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด โดยให้เสนอโครงการชุมชนทั้ง 11 โครงการดังกล่าว เพิ่มในแผนงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 ของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางให้ความเห็นประกอบก่อนเสนอ กกพ.พิจารณาต่อไป”

ลานนาโพสต์จึงได้สอบถามความคืบหน้าไปยัง นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ ประธานเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ เปิดเผยว่า หลังจาก เมื่อวันที่ 26 ม.ค.67 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษา ให้คณะกรรมการกองทุนพัฒนาชุมชนรอบโรงไฟฟ้าหรือคณะกรรมการกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะ นำโครงการทั้ง 11 โครงการชุมชนของผู้ฟ้องทั้ง 47 ราย กลับมาพิจารณาตามระเบียบกำกับกิจการฯ ที่มีอยู่อยู่  แต่ต่อมาวันที่ 20 มี.ค.67 ทางกองทุนฯได้ส่งหนังสือมาถึงตนเอง  อ้างว่าระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในปี 2555 นั้นถูกยกเลิกไปแล้วโดยมีระเบียบใหม่ปี 2563 มาแทน หากยังจะของบกองทุน ให้นำโครงการไปทำประชาคม ตามระเบียบใหม่

ตนเองจึงได้ไปยื่นเรื่องถึงสำนักงานบังคับคดี ศาลปกครองสูดสุด ในวันที่ 10 เม.ย.67เพื่อขอความเป็นธรรมต่อศาลว่า การที่คณะกรรมการกองทุนพัฒนาไฟฟ้าแจ้งให้ผู้ฟ้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ ตามระเบียบ กกพ.ปี 63 นั้น เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่เป็นธรรมกับผู้ฟ้องคดี ทั้ง 47 ราย เนื่องจากเป็นการสร้างขั้นตอนและสร้างภาระ เกินความจำเป็น และผู้ฟ้องคดีฯทั้งหมด ได้ใช้สิทธิตามระเบียบฯ กกพ.ปี 2553 จนครบถ้วนทุกขั้นตอนแล้ว  ประกอบกับศาลได้มีคำพิพากษา ให้ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ 1 (คพรฟ.) พิจารณาโครงการชุมชน ทั้ง 11 โครงการของผู้ฟ้องคดี ทั้ง 47 ราย ตาม ระเบียบ กกพ.ปี 2553 โดยชอบแล้ว 

การบังคับคดีดังกล่าวได้ดำเนินการมาใกล้จะครบ 1 ปีแล้วที่ศาลได้มีคำพิพากษา ซึ่งตนเองกำลังจะติดตามผลการดำเนินงานตามคำพิพากษาของศาลอยู่พอดี  ก็ได้รับหนังสือจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เรื่องการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว มาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.68 ที่ผ่านมานี้เอง  ชาวบ้านผู้ฟ้องคดีทั้ง 47 คน รอมา 12 ปีแล้ว ก็ยังยื้อเวลาบังคับคดีอีก 1 ปี และยังไม่รู้ว่ากระบวนการจะเนิ่นนานไปอีกแค่ไหน  ทางคณะกรรมการกองทุนฯ จะบิดพลิ้วหรือขายฝันอีก คุณจะได้ฝันร้ายแน่นอน แม้ว่าชาวบ้านถอดใจว่าอาจจะไม่ได้โครงการคืน แต่เรื่องการดำเนินคดีทางกฎหมายเราจะเดินหน้าต่อให้ถึงที่สุด

ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา  นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ในฐานะผู้ฟ้องคดี และผู้รับมอบอำนาจจากผู้ฟ้องคดี 47 ราย  กล่าวว่า  ขณะนี้กองทุนพัฒนาไฟฟ้าฯ ได้มีหนังสือแจ้งมายังเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะแล้วว่าจะนำโครงการ 11 โครงการกลับเข้าสู่การพิจารณา จึงแนะนำให้ทางคุณมะลิวรรณ ได้เข้าพูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะประธานกองทุนพัฒนาไฟฟ้า นอกรอบก่อนเพื่อขอความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจให้กับชาวบ้าน หากเป็นไปในทิศทางที่ดี เชื่อว่าทางคณะกรรมการกองทุนฯ ท่านอื่นๆก็จะเห็นชอบด้วย  ความบาดหมางต่างๆที่เคยมีจะได้ยุติไป ต่างคนต่างอยู่ร่วมกันด้วยมิตรภาพได้ 

ในฐานะที่ตนเองเป็นผู้ฟ้องและผู้รับมอบอำนาจ จะทำหนังสือไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ประธานกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ให้ช่วยเห็นใจและอนุมัติโครงการดังกล่าวโดยเร็ว ซึ่งต้องรอติดตามว่าทางคณะกรรมการกองทุนฯ จะมีการประชุมกันเมื่อไร คาดว่าจะมีความคืบหน้าภายในเดือน ม.ค.นี้

             คดีนี้สืบเนื่องจาก  สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวกรวม 47 คน ยื่นฟ้องคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า กองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าแม่เมาะ และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ให้นำโครงการจำนวน 11 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการชุมชนเกี่ยวกับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า เข้าสู่การพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ กกพ.กำหนด เมื่อ 15 ส.ค.2555  ซึ่งคดีนี้ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องไปเมื่อปี 2558  แต่ผู้ร้องได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด 

            กระทั่ง ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง โดยสั่งให้คณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า จ.ลำปาง (คพรฟ.) นำ 11 โครงการฯพัฒนาชุมชนของชาวบ้านผู้ฟ้องคดีมาพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ระเบียบ กกพ.เมื่อปี 2553 กำหนด ทั้งนี้ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ศาลปกครองสั่งคืน 11 โครงการ  https://www.lannapost.net/2024/01/11-12.html

มะลิวรรณยื่นสำนักงานบังคับคดีเรียก กกพ.ชี้แจง เหตุไม่ทำตามคำพิพากษา https://www.lannapost.net/2024/04/blog-post_62.html