วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2561

โกโก้วังเหนือสายพันธ์ุไทยส่อแววรุ่ง 'วังเหนือ'เล็งลุยตลาดโลก



จำนวนผู้เข้าชม url and counting visits

ใครจะเชื่อว่าโกโก้ กลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่ครองใจเกษตรกรยุคนี้ อาจเป็นเพราะ โกโก้เป็น พืชยืนต้นขนาดกลางที่สูงไม่มากนัก โตได้ดีในลักษณะภูมิอากาศของประเทศเขตร้อนชื้นแบบประเทศไทย ต้นโกโก้ไม่ต้องการแสงแดดมากนัก และโดยมากมักอาศัยร่มเงาจากร่มไม้อื่นจึงสามารถปลูกแซมกันพืชอื่นๆได้ เมื่อปลูกได้อายุ 3 ปี ก็เริ่มให้ผลผลิตเก็บเกี่ยวทุกสัปดาห์ หรือในรอบ 15 วัน ถ้ามีระบบน้ำในฤดูแล้งจะยิ่งเพิ่มผลผลิตทั้งพืชหลักและโกโก้ที่ปลูกเสริมในสวน ที่สำคัญมีอายุยืนหลายสิบปีปลูกครั้งเดียวเก็บเกี่ยวได้ตลอดชีวิต ดูแลง่าย ไม่ค่อยมีศัตรูพืชรบกวน

โกโก้ผลสุกสีเหลืองและส้มเหลืองขายเข้าโรงงานแปรรูปที่มารับซื้อถึงหน้าสวน ซึ่งเขาจะนำเมล็ดข้างในไปแปรรูปเป็นผงโกโก้ หรือ น้ำมันโกโก้ ช็อคโกแลตในอุตสาหกรรมอาหาร และสารตั้งต้นจากธรรมชาติในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางในตลาดสากล เป็นต้น ขณะนี้ตลาดมีความต้องการสูงมากทั้งในไทยและตลาดต่างประเทศ เช่นญี่ปุ่นและยุโรป จึงไม่แปลกอะไรที่มีบริษัทหรือโรงงานแปรรูปเอกชน เริ่มหันมาส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกโกโก้แล้วมีการประกันราคารับซื้อสัญญาระยะยาว

หากแต่น้อยคนจะรู้ว่า ลำปางก็เป็นแหล่งปลูกโกโก้แปลงใหญ่ ที่เรียกกันได้ว่าเป็นพื้นที่ปลูกโกโก้แปลงใหญ่กลุ่มแรกของประเทศไทย ที่เกษตรกรรายเล็กๆมีพื้นที่ปลูก ตั้งแต่ 1 หลักสิบไร่ รวมตัวกันปลูกโกโก้ พันธุ์ลูกผสม I.M. 1 ซึ่งนักวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิจัยและมีเทคนิคดูแลให้ได้ผลผลิตดี แถมยังเป็นสายพันธุ์ที่มีตลอดรองรับแน่นอนระยะยาว

อาคม มีเมล์ ประธานกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้แปลงใหญ่ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง บอกเล่าว่า ก่อนหน้านี้ ราว 2-3 ปี มีเกษตรกรหลายรายในอำเภอวังเหนือปลูกโกโก้ แซมในสวนเกษตรที่มีอยู่ ตามคำแนะนำและการส่งเสริมของบริษัทเอกชนที่รับซื้อผลสุกโกโก้ไปแปรรูป ซึ่งปลูกแล้วได้ผลผลิตดี มีรายได้สูง  เพราะโกโก้เติบโตเร็ว ให้ผลผลิต ออกดอกออกผลไปพร้อมๆกัน จึงเก็บผลิตได้ตลอดปี ที่สำคัญอำเภอวังเหนือมีสภาพดิน น้ำ และสิ่งแวดล้อมดี จึงมีเกษตรกรปลูกโกโก้ตามพื้นที่เกษตร แต่อาจจะมีหลากหลายสายพันธุ์รวมแล้วประมาณ 150 ราย พื้นที่รวมเกือบ 400 ไร่  

ขณะนี้ มีเกษตรกรในอำเภอวังเหนือที่ขึ้นทะเบียนแปลงปลูกโกโก้ที่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดินจำนวน 52 ราย ภายใต้ชื่อกลุ่ม “โกโก้เมืองวัง” ปลูกโกโก้พันธุ์ I.M.1  พื้นที่รวมประมาณ 163 ไร่   ซึ่งถือว่าเป็น พื้นที่ปลูกโกโก้แปลงใหญ่ กลุ่มแรกของประเทศไทยและมีแนวโน้มจะขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันได้รับการสนับสนุนงบยุทธศาสตร์จังหวัด ให้เกษตรจังหวัดลำปางที่มีเอกสารสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย สนใจปลูกโกโก้เข้าร่วมโครงการฯได้ ผ่านศูนย์ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) จึงได้ปลูกโกโก้แซมในแปลง มะรุม ลำไย และสวนเกษตรผสมผสาน เพื่อเป็นแปลงต้นแบบให้กับเกษตรกรรายอื่นๆ ทั้งนี้วางเป้าหมายว่า กลุ่มผู้ปลูกโกโก้อำเภอวังเหนือ จะกลายเป็นแหล่งท่อเที่ยวเชิงเกษตร และวางแผนสร้างเรื่องราว Story ให้เป็นสัญลักษณ์การตลาดท่องเที่ยวในสวนโกโก้ “Home Of Cocoa” มีเทศกาลต่างๆเกี่ยวกับโกโก้ ให้คนมาเที่ยวถ่ายรูปที่อำเภอวังเหนือ  และสามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวไปยังอำเภออื่นๆ ซึ่งพบว่ามีสวนโกโก้ ทุกอำเภอ

นางเบญจวรรณ สิทธิตุ่น เกษตรอำเภอวังเหนือ บอกว่า จากตัวอย่างเกษตรกรหลายรายที่ปลูกโกโก้แล้วได้ผลผลิตดี มีรายได้เพิ่มจากการทำสวนเกษตรเดิม หลักแสนบาทต่อปี โมเดลนี้จะนำขยายผลให้เกษตรกรทั่วไปที่ปลูกไม้ผล หรือ แปลงเกษตรที่สามารถนำต้นโกโก้ปลูกแซมได้ไปปลูก เพื่อลดพื้นที่การทำไร่ข้าวโพด หรือการปลูกพืชเชิงเดี่ยวซึ่งมีรายได้น้อย ลงทุนต่อไร่สูง นอกจากนี้การปลูกโกโก้ ยังลดการใช้สารเคมีเพราะ เป็นพืชเศรษฐกิจที่ไม่ต้องการปุ๋ยเคมีบำรุง ในอนาคต แปลงเกษตรที่มีโกโก้ที่ใช้น้ำเกษตรแบบน้ำบาดาล ยังยกระดับเป็น แปลงเกษตรอินทรีย์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง

แม้ว่าการปลูกโกโก้จะเป็นเรื่องใหม่ในวงการเกษตรลำปาง แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่จะเห็นแปลงปลูกโกโก้ พืชที่ปลูกง่ายลงทุนน้อยแต่สร้างรายได้ตลอดปี ได้ผลผลิตยาวนาน เป็นแรงดึงดูดให้เกษตรกร ที่ทำพืชไร่ เปลี่ยนใจหันมาปลูกต้นโกโกโก้มากขึ้น

“ผมเคยปลูกพืชไม้ผลมาหลายชนิด ต้องดูแลใส่ใจเยอะมาก แต่ เมื่อทดลองเอาต้นโกโก้มาปลูกแซมในสวนลำไย และสวนยาง จำนวน 240 ต้น  เก็บผลสุกขายส่งให้กับโรงงานที่มารับซื้อเป็นรอบๆ กิโลละ 27 บาท บางลูกมีน้ำหนักเกือบ 1 ก.ก. ทำรายได้เดือนละไม่น้อยกว่าหมื่นบาท ที่ดีต่อเกษตรกรมากคือ ผลโกโก้เก็บแล้วไม่เสี่ยงต่อความเสียหาย เพราะเขาใช้เมล็ดข้างในไปแปรรูปซึ่งความเสียหายต่อผิวหรือเปลือกไม่ต้องใช้ทักษะเทคนิคอะไรมากก็ทำไร่โกโก้ได้” ลุงบุญมี เดชปทุม กล่าว

นายธวัชชัย สิทธิวีระกุล เกษตรจังหวัดลำปาง ระบุว่า การส่งเสริมปลูกโกโก้ในจังหวัดลำปางเป็นไปตามแผนงานยุทธศาสตร์เกษตรคุณภาพ ซึ่งเป้าหมายคือยกระดับการทำเกษตรในพื้นที่น้อยให้ได้มูลค่าและ มีรายได้มากขึ้น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้ให้ความสนใจในประเด็นปลูกพืชทางเลือก นอกเหนือจากพืชหลัก ลดการทำพืชไร่ ลดการใช้สารเคมี ซึ่งโกโก้เป็นหนึ่งในพืชทางเลือกที่เกษตรกรให้ความสนใจอย่างมาก โกโก้เป็นพืชที่มีตอนนี้ตลาดมีความต้องการสูงเพราะ ไทยยังต้องนำเข้าโกโก้ในราคาสูง ขณะที่ลักษณะภูมิประเทศของไทย โดยเฉพาะในภาคเหนือ รวมถึงลำปาง มีศักยภาพในการปลูกที่ได้ผลดี ซึ่งแปลงปลูกโกโก้ต้นแบบที่ ศพก.วังเหนือจะเป็นศูนย์เรียนรู้การปลูกโกโก้คุณภาพ ขณะนี้เกษตรจังหวัดลำปาง กำลังรวมรวมแปลงปลูกโกโก้ที่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ทุกอำเภอให้พัฒนาเป็นสวนโกโก้คุณภาพ กลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของจังหวัดลำปางในอนาคตด้วยเช่นกัน

สำหรับจังหวัดลำปางจุดเริ่มต้นของการปลูกโกโก้ขณะนี้จะเพิ่มเริ่มตั้งไข่ แต่เส้นทางยังมีอนาคตสดใส เพราะในวงการอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งในและต่างประเทศ ต่างยอมรับว่ากันว่าช็อคโกแลตที่ได้จากผลโกโก้สายพันธุ์ไทย มีกลิ่นและรสจากคุณค่าคล้ายสมุนไพรจากสารอาหารในดินพื้นที่ปลูกที่แตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกับกาแฟที่ให้กลิ่นรส และคุณค่าแตกต่างกันไปกลายเสน่ห์เฉพาะและเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้แก่เกษตรกรไม่น้อยเลยทีเดียว ในอนาคต อาจจะได้ยินชื่อช็อคโกแลตหรือ โก้โกลำปาง เป็นเทรดมาร์ค ...อะไรก็เป็นได้ แต่เริ่มต้นก็เห็นรำไรถึงปลายทาง


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1183 วันที่ 15 - 21 มิถุนายน 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์