วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

พลังประชารัฐ โค่นแชมป์ !?

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

นไทยว่างเว้นจากการเลือกตั้งมาไม่น้อยกว่า 6 ปี ช่วงเว้นวรรคยาวนี้ อาจทำให้โฉมหน้าทางการเมืองเปลี่ยนไป ด้วยพรรคการเมืองเกิดใหม่ นักการเมืองหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย ความไม่ต่อเนื่องนี่เองที่ส.ส.หน้าเดิม อาจไปไม่ถึงฝั่งฝัน และเปลี่ยนให้ ส.ส.หน้าใหม่ คนใหม่ๆ มาเดินบนถนนการเมืองมากขึ้น         ย้อนหลังไปก่อนที่จะมีพรรคเพื่อไทย ลำปางมีส.ส.จากพรรคชาติไทย พรรคความหวังใหม่ มีหลลายพรรคแบ่งเก้าอี้กันไป แต่เมื่อเกิดพรรคเพื่อไทย 4 เขตเลือกตั้ง ก็ถูกยึดครองอย่างเบ็ดเสร็จโดยพรรคเพื่อไทย

ถึงวันเลือกตั้งครั้งใหม่ สถานการณ์เปลี่ยน ทุกสิ่งเปลี่ยนไป พรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคการเมืองอันดับหนึ่งก่อนยึดอำนาจ และเป็นพรรคการเมืองที่อยู่ต่างขั้วอย่างสิ้นเชิงกับคสช.ซึ่งนั่นหมายถึงพรรคการเมืองที่สนับสนุนผู้นำคสช.ด้วย กลับอยู่ในฐานะลำบาก และที่น่าจะถึงกับกระอักโลหิตคือทักษิณ ชินวัตร ที่อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่น้อยแปรพักตร์ไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ เช่นเดียวกับอดีตส.ส.เกือบทุกพรรคที่ฝากชีวิตไว้กับพรรคการเมืองนี้

เช่นเดียวกับลำปาง ไม่แน่แล้วที่พื้นที่ยังคงครองไว้ด้วยพรรคเพื่อไทย

ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ คือการประกาศตัวสังกัดพรรคพลังประชารัฐของดาชัย เอกปฐพี อดีตหัวหน้าพรรคพลังประเทศไทย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง เขต 2 ซึ่งเคยผลักดันให้เกิดพรรคการเมืองท้องถิ่น เช่นเดียวกับพรรคพลังชล ของนักการเมืองกลุ่มคุณปลื้ม แต่ดูเหมือนยังต้องลงแรง ลงทุนกันอีกไม่น้อย

การใส่เสื้อพรรคพลังประชารัฐ จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ในกระแสพปชร.ฟีเวอร์ขณะนี้

บวกกับคุณสมบัตินักการเมืองรุ่นใหม่ ที่แข็งขัน กล้าพูด กล้าคิด พปชร.จึงน่าจะเป็นสปริงบอร์ดให้เขาเข้าไปทำหน้าที่ในสภาได้

“ผมต้องการที่จะเข้าไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนที่กล้าพูด กล้าที่จะเข้าไปแสดงความคิดเห็นในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อที่จะได้นำเอาปัญหาความเดือดร้อนต่างๆของประชาชนชาวลำปางไปเสนอแก่สภาผู้แทนราษฎร ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจเลือกพรรคประชารัฐซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหม่ เพราะพรรคมีแนวคิดที่สามารถเชื่อมต่อกับรัฐบาลปัจจุบัน จะทำให้การทำงานมีความต่อเนื่อง และหากลงพรรคเล็กก็ไม่อาจแข่งขันกับพรรคใหญ่ดั้งเดิมได้”

แต่ในขณะที่ดาชัย กระโดดลงเรือพรรคการเมืองสาย คสช.นักการเมืองอดีตพรรคเพื่อไทย แชมป์เก่า โดยเฉพาะ นายอิทธิรัตน์  จันทรสุรินทร์ และ นายจรัสฤทธิ์  จันทรสุรินทร์  ทายาทนักการเมืองเก่าแก่พินิจ  จันทรสุรินทร์ ที่เคยมีข่าวว่า จะไปซบพรรคพลังประชารัฐด้วย ก็ยืนยันว่ายังเหนียวแน่นอยู่กับพรรคเพื่อไทย

ไม่แตกต่างไปจากนักการเมืองกลุ่มบ้านสวน นายกิตติกร และนายธนาธร โล่ห์สุนทร ที่ยังไม่มีข่าวว่าจะแปรเปลี่ยนไปเป็นอื่นและจนถึงวันสุดท้ายของการสังกัดพรรค พวกเขาก็ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย คงมีแต่ท่านผู้อาวุโสแห่งบ้านสวน ไพโรจน์ โล่ห์สุนทร เท่านั้น ที่ดูเหมือนยังไม่แน่ใจนักว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่

ประสา “ม้าสีหมอก” ที่ทำข่าวการเมืองมานาน ผ่านประสบการณ์การที่การเมืองไทย เคยมีพรรคสามัคคีธรรม พรรคการเมืองเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนผู้นำเผด็จการ เชื่อว่าความคึกคัก ความแรงของพรรคพลังประชารัฐนั้น เป็นเพียงภาพมายา ซึ่งไม่น่าจะเป็นพรรคการเมืองอันดับหนึ่งในสภาสมัยหน้า ส่วนการผลักดันให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อาจประสบผลสำเร็จด้วยปาฎิหาริย์ 250 สมาชิกวุฒิสภา

และ “ม้าสีหมอก” เชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้น แต่จะเป็นการเลือกตั้งอายุสั้น อย่างมากก็หนึ่งปี ยิ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ต่อ ด้วยภาวะอารมณ์ที่ทนแรงกดดันอะไรไม่ค่อยได้ เขาจะไปได้ไม่ไกลด้วยบรรยากาศประชาธิปไตย และความเข้มข้นของนักการเมืองในการวิพากษ์ วิจารณ์ที่ไร้ข้อจำกัดเช่นเดียวกับยุค คสช.พล.อ.ประยุทธ์ ถูกเหยียบตายอย่างแน่นอน

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1207 วันที่ 30 พฤศจิกายน - 6 ธันวาคม 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์