จากกรณีที่ชาวบ้านยางอ้อย
หมู่ 11 ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ประมาณ
80 คน ออกมารวมตัวกัน และนํากล้าพันธุ์ไม้ มาวางประชดบนถนนในหมู่บ้าน
และตะโกนว่าเตรียมย้ายหนีได้แล้ว เพราะบ้านเราเขาไม่ให้อยู่
เป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ หลังจากที่เทศบาลตำบลเวียงตาล
ได้รับงบประมาณจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น 3
โครงการๆละ 4 แสนกว่าบาท รวม 1.4 ล้านบาท เพื่อทําเป็นถนนแอลฟัลท์ลาดยาง
ในขณะที่ทางเทศบาลเตรียมการจัดจ้าง
เพื่อปรับปรุงถนนอยู่นั้นทาง นายนเรศฤทธิ์ อุบลศรี นายอําเภอห้างฉัตร
ได้ทําหนังสือแจ้งมาทางเทศบาลตำบลเวียงตาลให้ยุติโครงการเอาไว้ก่อน เนื่องจากถนนหมู่บ้านอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
มาตรา 54 ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484
อ่านข่าววางต้นไม้กลางถนนประชด https://www.lannapost.net/2021/10/20.html
วันที่
4 ตุลาคม 64
นายนิวัฒน์ ปะระมา นายกเทศมนตรีตำบลเวียงตาล พร้อมฝ่ายบริหาร
สมาชิกสภาเทศบาล ผู้นำชุมชน พร้อมชาวบ้านกว่า 100 คน
เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดลำปาง เพื่อยื่นหนังสือให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
ขอความเป็นธรรมในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากนายอำเภอห้างฉัตรเลือกปฏิบัติ
มีการสั่งยุติโครงการเฉพาะในส่วนของเทศบาลตำบลเวียงตาลเท่านั้น แต่เทศบาลอื่นๆอีก 6 แห่งในพื้นที่สามารถดำเนินโครงการได้
พร้อมกันนี้ได้นำป้ายข้อความต่างๆ
เช่น ชาวเวียงตาลไม่เอานายอำเภอที่เลือกปฏิบัติให้ย้ายออกไป ,
ชาวอำเภอห้างฉัตรอยากได้นายอำเภอที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข , ท่านเลือกปฏิบัติคนที่เสียผลประโยชน์คือชาวบ้าน
เป็นต้น โดยมีนายจำลักษ์ กันเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
นายอนวัช สัตตบุศย์ ปลัดจังหวัดลำปาง นางศุกลรัตน์ จันทร์มณี ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง เข้ารับหนังสือและชี้แจงกับชาวบ้าน
นายนิวัฒน์
ปะระมา นายกเทศมนตรีตำบลเวียงตาล
เปิดเผยว่า การมายื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านตำบลเวียงตาล
ในเรื่องที่นายอำเภอห้างฉัตรได้เลือกปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีของ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ซึ่งเทศบาลได้รับงบประมาณเหลือจ่าย ปี 64
จากกรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ให้แนวปฏิบัติตามคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ในการบำรุงถนนสาธารณะต่างๆโดยไม่ต้องขออนุญาต ยกเว้น ป่าสงวน
อุทยานแห่งชาติ และเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า เป็นต้น ซึ่งป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 จะเป็นถนนหนทางที่ชาวบ้านใช้มานานกว่า 50-60 ปี
มาแล้ว หมดสิ้นความเป็นป่าไปแล้ว แต่นายอำเภอได้มีคำสั่งให้เทศบาลตำบลเวียงตาล
ขออนุญาตก่อน แต่เทศบาลอื่นใกล้เคียงกันอีก 7
แห่งในอำเภอห้างฉัตร ไม่ได้มีการถูกตรวจสอบ เทศบาลที่ได้งบประมาณมาพร้อมกันได้ก่อสร้างกันไปหมดแล้ว
แต่เทศบาลตำบลเวียงตาลไม่ให้สร้าง เมื่อมีโอกาสได้สอบถามนายอำเภอห้างฉัตร
ก็บอกว่าเทศบาลอื่นไม่ได้ติดพื้นที่ป่า ซึ่งไมได้ทำการตรวจสอบจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
แต่ดูจากเว็บไซด์กูเกิลเท่านั้น อยากจะขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง
เพราะโครงการต่างๆ เป็นความต้องการของชาวบ้าน
โครงการที่มีปัญหามีอยู่ 3 โครงการ งบประมาณอยู่ที่ 1.4 ล้านบาท
แต่เมื่อนายอำเภอสั่งมาเช่นนี้แล้วโครงการทั้งหมดในเทศบัญญัติของตำบลเวียงตาลจะไม่สามารถทำได้เลย
จะต้องขออนุญาตทั้งหมด ทั้งที่นายอำเภอก็เพิ่งได้ตรวจเทศบัญญัติไป ถ้าหากมีนโยบายกำชับการใช้พื้นที่ป่าจะต้องทำเป็นภาพรวมอำเภอทั้งหมด
ไม่ใช่มาเจาะจงที่ตำบลเวียงตาลที่เดียว
นายกเทศมนตรีตำบลเวียงตาล กล่าวอีกว่า ถ้าไม่ได้ใช้งบประมาณตรงนี้งบก็มีโอกาสถูกดึงกลับไป
ชาวบ้านก็จะเสียโอกาสตรงนี้ แทนที่จะได้มีถนนที่ดี ได้งบจัดสรรจากรัฐบาล
งบในเทศบัญญัติมีน้อย หมู่บ้านหนึ่งได้เพียง 6-7 แสนบาท
ซึ่งในปีนี้เทศบาลได้งบอุดหนุนจากรัฐบาลมา 20
กว่าล้านบาท ตอนนี้กลายเป็นว่าทุกถนนทุกซอยในพื้นที่ตำบลเวียงตาลเป็นป่าทั้งหมด
หากนายอำเภอใช้ดุลพินิจแบบนี้เป็นการไม่เท่าเทียม และเป็นการปฏิบัติไม่เสมอภาค
ด้านนายจำลักษ์ กันเพ็ชร
รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ป่า
2484 ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ไม่มีคนครอบครอง รวมทั้งถนนหนทางต่างๆก็ตีความว่าเป็นป่า
แต่เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้มีมานานแล้ว จังหวัดลำปางก็เคยมีกรณีเช่นนี้ที่
ต.บ้านเอื้อม เป็นการขุดคลองในพื้นที่ป่า แต่เป็นการพัฒนาอำนวยความสะดวกให้ประชาชน
กฤษฎีกาตีความออกมาว่า ในเมื่อไม่มีสภาพเป็นป่าอยู่แล้วก็เข้าดำเนินการได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาต
แต่เนื่องจากเป็นกฎหมายก็ต้องแจ้งให้มีการปรับปรุงกฎหมายเสียก่อน
ข้อเท็จจริงก็เห็นจากภาพถ่ายแล้วว่าสภาพไม่มีความเป็นป่า
ไม่มีต้นไม้แม้แต่ต้นเดียว แต่การบังคับกฎหมายกับข้อเท็จจริงต่างกัน ต้องปรับให้มีความยืดหยุ่นในการบริหารงาน แต่อย่างไรก็ตาม
ในเรื่องเหล่านี้จะให้ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดรับเรื่อง
และตรวจสอบอย่างละเอียดให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้าน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น